น้ําตกห้วยแม่ขมิ้น

เรื่องเที่ยวจากทางบ้าน

ผจญภัยไปเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น…..กาญจนบุรี

ผจญภัยไปเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น…..กาญจนบุรี โดย...พิศ พังงา ออนไลน์วันที่ 22 มิถุนายน 2548      หลังจากฤดูร้อนที่สุดแสนจะแห้งแล้งผ่านไปพร้อมภัยธรรมชาติ…..ซูนามิ….ที่สร้างความเสียหายอย่างมากกับชีวิต และทรัพย์สินของเพื่อนบ้านชาวพังงา….. บ้านเกิด….และเพื่อนบ้านอีกหลายจังหวัด……..แต่ก็ได้รับแรงกายและแรงใจจากเพื่อนชาวไทย และเพื่อนบ้านต่างแดน เช่น มาเลเซีย รวมถึงประเทศอื่น ๆ  ที่ให้ความช่วยเหลืออย่างทันเหตุการณ์ ตราตรึงความทรงจำให้ชาวบ้านเราไม่รู้ลืม……      ณ วันนี้…..ฤดูฝนก็มาถึง…….สายฝนช่วงแรกเริ่มโปรยปราย ป่าไม้เขียวขจี เวลาแห่งการรอคอยนานนับปีก็มาถึงอีกครั้ง …….  น้ำตกห้วยแม้ขมิ้นน้ำตกสวยแห่งเมืองกาญจน์…… น้ำตก ในความฝันว่า จะต้องไปเก็บภาพสักครั้งหนึ่งของชีวิต หลังจากพลาดทริปนี้มาหลายครั้งเมื่อปีก่อน…… บนเส้นทางอ้อมเขื่อนศรีนครินทร์ไปกาญจนบุรี      ทริปนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เหมือนกัน ….. นัดหมายกันอย่างกะทันหัน…….ผู้ร่วมผจญภัยครั้งนี้ 8 คน รถยนต์ปิคอัพ 2 คัน เที่ยวแบบหารเฉลี่ย…. เส้นทางยามเช้าจากทองผาภูมิไปเขื่อนวชิราลงกรณ์(เขื่อนเขาแหลม) บนเส้นทางอ้อมเขื่อนศรีนครินทร์ไปกาญจนบุรี ทิวทัศน์เขื่อนศรีนครินทร์ถ่ายช่วงล่องแพ เก้าอี้นั่งชมทิวทัศน์บนแพขนานยนต์ ทิวทัศน์เขื่อนศรีนครินทร์ถ่ายช่วงล่องแพ แพขนานยนต์รอรับรถยนต์ไปอำเภอศรีสวัสดิ์ ลักษณะภูมิประเทศ      พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากสร้างเขื่อนศรีนครินทร์กั้นขวางแม่น้ำแม่กลองช่วงแม่น้ำแควใหญ่  สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูน และหินตะกอนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เกิดจากลำห้วยแม่ขมิ้นที่ไหลผ่านเทือกเขาหินปูนลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ มีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่ 1-3  อยู่บนเส้นทางก่อนถึงที่ทำการอุทยาน ฯ ส่วนชั้นที่ 5-7 ใช้เส้นทางเดินจากที่ทำการอุทยาน ฯ ด้านทิศตะวันตก เดินแบบสบาย ๆ ผ่านป่าไผ่ชมน้ำตก ดูนกไปเรื่อย ๆ ชั้นที่ 1 ดงว่าน ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 300 เมตร  ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 400 เมตร  ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 660 เมตร ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยาน ฯ บริเวณด้านข้างลานกางเต็นส์ เป็นน้ำตกชั้นที่สวยที่สุด  ชั้นที่ 5 ไหลจนหลง ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 1,140 เมตร  น้ำตกชั้นนี้ไหลจนหลงจริง ๆ เพราะมองไปมีแต่ก้อนหิน หาสายน้ำตกไม่เจอเพราะน้ำจะไหลลงรูเล็ก ๆ ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 2,070 เมตร  ส่วนตัวชอบสายน้ำตกชั้นนี้มากที่สุด มีแอ่งน้ำใหญ่ 2 แอ่งเล่นน้ำได้ เป็นที่อาศัยของผีเสื้อ วันที่ไปพบผีเสื้อถุงทองบินร่อนเล่นน้ำอยู่หลายตัว  ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 2,270 เมตร ชั้นนี้ก็มีผีเสื้อบิน ลงเล่นน้ำได้เช่นกัน  ทิวทัศน์เขื่อนศรีนครินทร์ถ่ายช่วงล่องแพ ผจญภัยจากแพขึ้นสู่ฝั่ง จุดนี้ที่น่าหวาดเสียว ภาพถ่ายอาจจะมองเป็นทางราบแต่สภาพพื้นที่จริงเป็นเนินเขาเลียบหน้าผา พื้นเป็นลูกรังก้อนโต ทิวทัศน์เขื่อนศรีนครินทร์ถ่ายช่วงล่องแพ ริมเขื่อนศรีนครินทร์ที่ท่าแพขนานยนต์ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว สายน้ำบางช่วงถ่ายใกล้ มุมหนึ่งของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว บันทึกการเดินทาง วันแรก      ออกเดินทางเย็นวันเสาร์ผ่านกรุงเทพ ฯ เวลาประมาณ 18.30 น. วางแผนนอนค้างที่อำเภอทองผาภูมิ  เนื่องจากเส้นทางเข้าสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ไม่เหมาะจะเดินทางช่วงกลางคืน……      ผ่านนครชัยศรี-นครปฐม-เมืองกาญจน์-บ้านโป่ง-ท่ามะกา-ท่าม่วง ถึงตัวเมืองกาญจน์ระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเลี่ยงตัวเมืองถนนสาย 323 ผ่านไทรโยค ถึงทองผาภูมิรวมระยะทางประมาณ 175 กิโลเมตร………. เส้นทางช่วงไทรโยคถึงทองผาภูมิค่อนข้างเปลี่ยว และคดเคี้ยว นาน ๆ จะมีรถสวนทาง  โชเฟอร์ใช้ความสามารถส่วนตัวบึ่งรวดเดียวถึงทองผาภูมิเที่ยงคืนพอดี……       ผู้นำทางจองที่พักโรงแรมสมใจนึก ในตัวอำเภอ เนื่องจากที่พักแถวเขื่อนจะปิดไฟฟ้าตามเวลาไม่สะดวกสำหรับการเข้าห้องพักช่วงเที่ยงคืน….  สภาพโรงแรมสะดวกสบายสมชื่อจริง ๆ       อยากแนะนำค่ะ ราคาห้องพักแค่ 500.- บาท นอนได้ห้องละ 3 คน มีเตียงใหญ่ 1 และเตียงเล็ก 1 แยกคนละฝั่ง มีห้องน้ำ-ห้องเก็บสัมภาระแยกเป็นสัดส่วน วันที่สอง     นัดหมายออกเดินทางเวลา 06.00 น. แวะตลาดเช้าใกล้ที่พัก ด้านหลังตลาดมีทะเลหมอกไหลเรื่อๆ ตามยอดเขา เป็นบรรยากาศชนบทที่สดชื่นมากๆ  มีพระภิกษุเดินบินฑบาตรได้ทำบุญใส่บาตรเป็นศิริมงคลกับการเดินทาง ที่ตลาดเป็นคิวรถบัสกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ  สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ขับรถยนต์มาเอง ใช้รถโดยสารก็สะดวกดี  หลังจากนั้นก็เดินหากาแฟ+ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กินรองท้อง เดินชมตลาดไปเรื่อย…..แม่ค้าปะแป้งหน้าขาวแบบสาวพม่านั่งขายดอกไม้  ที่ถูกใจเห็นจะเป็นดอกเข้าพรรษาสีขาวนวล มะนาวราคาถูกมาก ๆ 100 ลูกราคา 30-50 บาท ลูกเนียง  ผักแนมทานกับน้ำพริกหรือแกงเผ็ด…..ของโปรดของชาวปักษ์ใต้บ้านเราร้อยลูก 50 บาท …….     จากนั้นออกเดินทางไปชมวิวเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือ เขื่อนเขาแหลม ได้มีโอกาสเห็นสายหมอกยามเช้าอีกรอบ  คราวนี้สวยจนอดใจไม่ได้ ต้องแวะเก็บภาพสายหมอกยามเช้าริมถนน      ออกจากเขื่อนเขาแหลมแวะไหว้พระที่วัดหลวงปู่สาย (วัดท่าขนุน) เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางอีกรอบ  ขับรถย้อนกลับทางเดิมมุ่งสู่อำเภอไทรโยค ไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แวะทานอาหารเช้าที่ร้านชนบทตามป้ายหน้าร้านบอกว่าเป็นร้านที่นิตยสาร อสท. แนะนำ…. ก็ไม่ผิดหวัง เมนูที่ชิมแล้วคิดว่าใช้ได้คือ  ทอดมันปลากราย ปลาแรดตัวใหญ่ทอดกระเทียมและยำผักกูด……     จากร้านอาหารมุ่งสู่เขื่อนศรีนครินทร์ ใช้ถนนสาย 3457 ไปลาดหญ้า ไม่ต้องอ้อมไปลงแพขนานยนต์ที่ท่ากระดาน  เลี้ยวซ้ายไปตามทางอำเภอศรีสวัสดิ์ ถนนสาย 3199 ผ่านเส้นทางเลียบเขื่อนท่าทุ่งนา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลูกรังระยะทาง 42 กิโลเมตร ผ่านถ้ำพระธาตุ …. ถึงที่ทำการอุทยาน ฯ บริเวณน้ำตกชั้นที่ 4  ประมาณเกือบเที่ยงวัน       น้ำตกในวันนั้นน้ำน้อยไปหน่อย ไม่สามารถ่ายทอดความงามของสายน้ำตกเป็นภาพถ่ายได้ดั่งใจ เหตุเพราะเวลาบังคับไม่ได้เดินดูน้ำตกครบทุกชั้น ชั้น 1-3 ไม่ได้ไป คิดว่าต้องมีทริปล้างตาช่วงหน้าฝนอีกรอบแน่นอน แต่ก็ชอบบรรยากาศน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมาก เหตุผล :  ข้อ 1 ลำธารน้ำลดหลั่นเป็นสายสวยมาก ๆ  ข้อ 2 การเดินชมน้ำตกแต่ละชั้นเส้นทางราบไม่ลื่นทางอุทยาน ฯ จัดทำเส้นทางเดินกว้าง เดินสบาย  ข้อ 3 สามารถขับรถยนต์ไปเองได้ไม่ลำบาก  ข้อ 4 นักท่องเที่ยวไม่มากนักจนบดบังความงามของสายน้ำ (ข้อนี้ไม่ค่อยชัวร์ต้องรอไปพิสูจน์ช่วงหน้าฝนอีกครั้ง) ข้อ 5 การบริการห้องน้ำสาธารณะสะอาด+ประมาณเพียงพอ  ข้อ 6 ลานกางเต๊นส์อยู่ใกล้น้ำตก สามารถมองเห็นทิวทัศน์เขื่อนศรีนครินทร์  ข้อ 7 สังเกตบริเวณที่ทำการอุทยาน ฯ มีบ้านพัก และร้านอาหาร สำหรับบริการนักท่องเที่ยวด้วย น่าสนใจมาก      พวกเราเดินทางกลับประมาณ 14.30 น. ใช้เส้นทางข้ามแพขนานยนต์ไปอำเภอศรีสวัสดิ์ระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาอยู่บนแพประมาณ 45 นาที  ชอบบรรยากาศบนแพมาก ๆ มีเก้าอี้นั่งที่มีหลังคากันแดด นั่งชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์สายน้ำสีฟ้าคล้ายน้ำทะเลแถวอันดามัน….สวยจริง ๆ ……  เสียแต่ช่วงนี้น้ำในเขื่อนลดน้อยลงมาก ทำให้ทางขึ้นฝั่งค่อนข้างอันตราย (ค่อนไปทางสูงนะ) ต้องขับรถเลาะเนินเขาเตี้ย ๆ หวาดเสียวมาก ๆ สำหรับคนที่ขับรถยนต์ไม่เก่งไม่ควรเสี่ยง อีกทั้งทางขึ้นแพขนานยนต์ก็ต้องถอยหลังลงแพ ไม่ได้ขับลงแพเหมือนกับที่ไปเกาะลันตา       หลังจากลุ้นกับการขับรถขึ้นจากแพสู่ถนนลูกรัง ขับรถไปตามถนนลูกรังก่อนถึงท่าแพขนานยนต์ไปห้วยแม่ละมุ่น ประมาณ 2 กิโลเมตร  ถึงสามแยกไปท่าเรือเปลี่ยนแผนไม่เดินทางไปลงแพ ซึ่งมีข้อมูลมาว่าใช้เวลาประมาณ 15 นาที  เหตุเพราะผู้นำทางต้องการทดสอบเส้นทางสายอ้อมอ่างเก็บน้ำ ที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ก็ประมาณว่าอยากหาทางลัดไม่ต้องรอคิวนำรถลงแพนั่นแหละ……..เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายกาญจนบุรี  เส้นทางแม้คดเคี้ยว แต่ทิวทัศน์สวยงาม คิดว่าทางสายนี้นักท่องเที่ยวใช้บริการน้อย สังเกตจากไม่มีรถสวน หรือรถขับตามมา คงเป็นเพราะเส้นทางอ้อมไกล  อันตรายของเส้นทางนี้ถ้าเป็นช่วงกลางคืนไม่ควรเสี่ยงเพราะเส้นทางคดเคี้ยว และที่สำคัญช่วงหน้าฝนคงจะมีดินภูเขาถล่มลงมาที่ถนนเป็นแน่  เห็นร่องรอยไม่ใช่ดินธรรมดาแต่เป็นดิน+ก้อนหินใหญ่….  มุมหนึ่งของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 7 ร่มเกล้า น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้น 6 ดงผีเสื้อ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้น 6 ดงผีเสื้อ ยามเช้าที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ ปลานิลทอดกรอบร้านชนบท เขื่อนศรีนครินทร์ช่วงก่อนขึ้นผจญภัยสู่ฝั่ง อำเภอศรีสวัสดิ์ ผืนน้ำสีน้ำทะเลเข้ม โรงผลิตพลังงานไฟฟ้าเขื่อนศรีนครินทร์ บ้านพักบริเวณที่ทำการอุทยาน ฯ ใกล้น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 ดอกเข้าพรรษาที่ตลาดทองผาภูมิ    ผลการทดสอบเส้นทางสายนี้คงไม่ใช่เส้นทางลัดแต่เป็นทางอ้อมไกลมาก ๆ มาบรรจบกับทางลงแพขนานยนต์ห้วยแม่ละมุนเช่นกัน ก็เลยถึงบางอ้อว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีใครใช้เส้นทางสายนี้ก็เส้นทางไกลผ่านภูเขาวกวนตั้งหลายกิโลเมตรนี่นา  แต่ก็น่าจะเป็นทางเลือกช่วงเทศกาลที่ฝนไม่ตกแลกกับเวลารอนำรถยนต์ลงแพขนานยนต์นาน ๆ ก็น่าจะใช้เวลาน้อยกว่า เส้นทางช่วงผ่านเขื่อนท่าทุ่งนา ทิวทัศน์สวยมาก ถ้ามีเวลาแนะนำให้แวะชม……. ทริปนี้กลับถึงกรุงเทพ ฯ ประมาณ 2 ทุ่ม มาพร้อมกับความสุขเล็ก ๆ ที่ได้รับจากธรรมชาติสำหรับวันหยุด