|
|
การลงรองพื้น |
| - เริ่มด้วยการแต้มครีมรองพื้น 5 จุด บริเวณหน้าผาก จมูก แก้ม 2 ข้าง และคาง
|
- เกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจนเนียนเรียบ
|
- หากต้องการลงรองพื้นแบบเบาบาง ให้ใช้ฟองน้ำเกลี่ย แต่หากต้องการการปกปิดแบบหนาให้ใช้นิ้วมือในการเกลี่ย
|
- วิธีการจับฟองน้ำ ให้ใช้นิ้วกลางเป็นแกนหลักในการกดฟองน้ำให้สัมผัสกับผิวหน้า ในลักษณะคล้ายกับสปริง กดซับให้ทั่วใบหน้าจนกว่าจะเนียนเรียบ
|
|
|
|
การลงไฮไลท์ |
| - ใช้ครีมรองพื้นรอบดวงตา ปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง สีอ่อน ลากเส้นไปตามบริเวณที่ต้องการปกปิด หรือจุดที่ต้องการเสริมให้โดดเด่น ได้แก่ ใต้ดวงตา (ปกปิดรอยคล้ำ) สันจมูก โหนกคิ้ว ร่องแก้ม และคาง
|
- ใช้ปลายนิ้วมือ (นิ้วกลางนิ้วนาง) เกลี่ยครีมเบาๆ จนกระทั่งเนื้อครีมเรียบกลมกลืนไปกับผิว
|
- นิ้วกลางหรือนิ้วนามจะมีสัมผัสที่เบา และมีคุณสมบัติในเรื่องของความอบอุ่น ซึ่งจะช่วยให้ครีมรองพื้นรอบดวงตาและ ปกปิดริ้วรอยชนิดแ่ท่งผสมเป็นเนื้อเดียวกับครีมรองพื้น นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการรองพื้นเป็นคราบได้ดี
|
|
|
|
|
การลงเฉดดิ้ง |
| - ใช้ครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง สีเข้ม ป้ายไปตามจุดที่ต้องการปกปิด เช่น รอยปาน กระ รอยแผลเป็น รวมถึงของจมูก เพื่อเสริมให้สันจมูกดูเด่นขึ้น จากนั้น ใช้นิ้วมือเกลี่ยให้เนียนกลมกลืน
|
- หากต้องการแก้ไขรูปหน้าให้เรียวขึ้น ให้ลากครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง เป็นเส้นไปตามแนวขากรรไกร ปีกจมูก คาง หรือหน้าผาก แล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้กลมกลืนทั่วบริเวณนั้นๆ
|
- ควรตรวจสอบให้มั่นใจทุกครั้งว่า บริเวณที่เฉดดิ้งไม่ทิ้งรอยคราบเป็นเส้นเ่ด่นชัด ถ้ามีควรเกลี่ยให้กลมกลืน
|
|
|
|
|
การทาแป้งฝุ่น |
| - ใช้พัฟฟ์แต้มแป้งฝุ่นแล้วนำมากดซับบนใบหน้าโดยใช้นิ้วกลางเป็นตัวลงน้ำหนักเพียงเบาๆ
|
- หากต้องการลงแป้งผุ่นแบบเบาบาง ให้ใช้พู่กันปลายใหญ่จุ่มแป้งฝุ่น เคาะแปรงเพื่อให้แป้งส่วนเกินหลุดออก ปัดให้ทั่วไปหน้าแทนการใช้พัฟฟ์
|
- หลังจากลงแป้งฝุ่นเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้พู่กันปลายใหญ่ปัดแป้งฝุ่นส่วนเกินออกให้หมดทุกครั้ง
|
- การลงแป้งฝุ่นควรลง 2 สี เพื่อเสริมสร้างมิติบนใบหน้าให้ดูเด่นชัดมากขึ้น คือ
|
- ใช้แป้งฝุ่นสีอ่อน สีแฟร์ บริเวณกึ่งกลางใบหน้าหรือจุดที่มีการลงไฮไลท์
|
- -ตามด้วแป้งฝุ่นสีเข้ม สีมีเดียม บริเวณกรอบหน้าหรือจุดที่มีการเฉดดิ้ง
|
|
|
การเขียนคิ้ว |
| - กันคิ้วให้ได้รูปก่อนเขียนคิ้วทุกครั้ง
|
- เริ่มเขียนจากหัวคิ้วไปจนถึงหางคิ้วโดยให้ส่วนหัวคิ้วตรงกับหัวตา จุดสูงสุดของคิ้ว ตรงกับขอบตาดำด้านนอก และความยาวของคิ้วให้ใช้พู่กันวางทาบจากปีกจมูกผ่านหางตาขึ้นมา
|
- ใช้พู่กันปลายตัดแต้มที่ทาตาแบบฝุ่นสีเดียวกับดินสอบเขียนคิ้วเกลี่ยทับเส้นคิ้ว โดยให้หัวคิ้ว สีอ่อนกว่าหางคิ้ว
|
- เกลี่ยให้สีจากดินสอเขียนคิ้วเป็นเนื้อเดียวกันกับที่ทาตาแบบฝุ่นให้เป็นธรรมชาติที่สุด
|
|
|
การเขียนขอบตา |
| - เริ่มเขียนจากของตาล่างจากหางตามาจนถึงกึ่งกลางตา โดยเขียนให้ชิดขอบตามากที่สุด
|
- ส่วนขอบตาบนให้เริ่มเขียนจากหางตามาจนถึงหัวตา โดยให้เส้นหางตาหนากว่าหัวตา
|
- บริเวณหางตาให้เขียนในลักษณะตัววี จากนั้นใช้ปลายดินสอเขียนขอบตาด้านที่เป็นฟองน้ำเกลี่ยเส้นขอบตาบนให้กระจายออก เพื่อทำให้ดวงตาดูนุ่มขึ้น
|
- ส่วนขอบตาล่างให้ใช้ปลายดินสอด้านที่เป็นฟองน้ำแต้มที่ทาตาแบบฝุ่นสีเีดียวกันเกลี่ยทับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันการซึมเยิ้มระหว่าวัน
|
|
|
การทาที่ทาตาแบบฝุ่น |
| - ควรทาตาแบบฝุ่นอย่างน้อย 3 สีในเฉดเีดียวกัน
|
- ลงสีอ่อนสุดทั่วเปลือกตาและโหนกคิ้ว เกลี่ยให้เนียนเรียบ
|
- จากนั้นลงสีกลางเป้นสีที่ 2 บริเวณหัวตามาจนถึงกึ่งกลางตา เกลี่ยให้เนื้อสีกลมกลืนกัน
|
- สุดท้ายให้ลงสีที่เข้มที่สุดบริเวณหางตา เกลี่ยเข้ามาจนถึงกึ่งกลางตาให้สีกระจายกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันทั่งเปลือกตา อย่าให้เห็นเส้นแบบขอบสี
|
|
|
เติมแต่งขนตาด้วยมาสคาร่า |
| - เริ่มต้นด้วยการดัดขนตาก่อน โดยดัดเป็น 3 จังหวะหรือ โคนขนตา กึ่งกลางขนตา และสุดท้ายให้ดัดที่ปลายขนตา
|
- การปัดขนตาบน ให้มองต่ำและใช้มาสคาค่าปัดจากโคนขนตาออกมา ให้ปัดซ้ำอีกครั้ง หากต้องการให้ขนตาดูงอนหนามากขึ้น
|
- การปัดขนตาล่าง ให้เหลือบตาขึ้นข้างบนและใช้ปลายมาสคาร่าปัดเบาๆ
|
|
|
|
การเขียนขอบปาก |
| - เริ่มต้นด้วยการบำรุงริมฝีปากก่อนเสมอด้วย เชียร์ ลิบ คัลเลอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก
|
- เขียนขอบปากโดยเริ่มที่รอบหยักกึ่งกลางริมฝีปากบนให้เป็นรูปตัววี จากนั้นค่อยๆเขียนจากมุมปากมาจรดกับหางตัววีให้โค้างสวยเป็นเส้นเีดียวกัน
|
- ส่วนริมฝีปากล่ายให้เริ่มที่กึ่งกลางริมฝีปาก เขียนให้เป็นรูปตัวยู จากนั้นค่อยๆ เขียนจากมุมปากมาเชื่อมให้เป็นเส้นเีดียวกัน
|
|
|
|
การลงสีลิปสติก |
| - ใช้พู่กันทาปากทางลิปสติกเติมภายในขอบปากที่วาดไว้ โดยเริ่มจากมุมปากล่าง เข้ามาที่ส่วนกลางของริมฝีปาก
|
- จากนั้น ทาลิปสติกที่ริมฝีปากบน เริ่มจากมุมปากเข้ามาที่ส่วนกลางเช่นกัน
|
- สีลิปสติกที่ใช้ควรเป็นสีเีดียวกับดินสอเขียนขอบปากเพื่อให้เกลี่ยได้กลมกลืนเป็นธรรมชาติ
|
|
|
|
การแต่งแต้มสีสันลงบนแก้ม |
| - ปัดที่ทาแก้มแบบฝุ่นบริเวณพางแก้ม โดยปัดเฉียงขึ้นไปทางใบหูให้เนื้อสีเนียนกลมกลืนเป็นธรรมชาติ
|
- สีบรัชออนที่ใช้ต้องเป็นเฉดสีเดียวกับสีสันที่ใช้บนใบหน้า
|
|
|
|
การแต่งหน้ากรณีพิเศษ |
การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางวัน |
- ลงครีมรองพื้นชนิดเหลวที่เหมาะกับสภาพผิวเพียงบางๆ
|
- ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงดาด้วครีมรอบพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง และเกลี่ยให้เนียนเรียบ
|
- ทาทับแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า
|
- ใช้แปรงปัดขนคิ้ววาดให้ดูเป็นรูปคิ้วสวยงามแต่ไม่คมชัดจนเกินไป
|
- ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดเส้นตามแนวขอบตาด้านบน
|
- ทาตาด้วยที่ทางตาสีอ่อนหรือสีกลางจากขอบตาจนถึงคิ้ว
|
- ทางสีเข้มเพื่อเพิ่มความเ่ด่นบนดวงตา เกลี่ยให้ทั่วแนวโหนกคิ้วเพื่อให้ดวงตาเป็นรูปอัลมอนด์ สามารถใช้สีเดียวกันนี้ทาไล้ไปตามแนวขอบตาด้านล่างได้
|
- ปัดมาสคาร่าที่ขนตาด้านบนและด้านล่าง
|
- ปัดที่ทาแก้มแบบฝุ่นบางๆ ที่ได้บริเวณโหนกแก้มไปจนถึงแนวเส้นผม
|
- ใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดรูปปากแล้วทาลิปสติกสีกลางหรือสีเข้มสำหรับวันทำงาน และสีอ่อนสำหรับวันพักผ่อน
|
|
|
|
|
การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางคืน |
- ทาครีมรองพื้นให้หนากว่าตอนกลางวัน โดยใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ กับแป้งแข็ง ผสมรองพื้นเกลี่ยให้เนียนเรียบทั่วใบหน้า
|
- ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตา และ ปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง
|
- ปัดทับด้วยแป้งฝุ่นอีกครั้ง
|
- ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีเข้มกว่าสีคิ้วธรรมชาติ เขียนคิ้วให้ได้สัดส่วนและดูเป็นธรรมชาติ
|
- ทาตาด้วยที่ทาตาสีอ่อนจากขอบตาจนถึงคิ้ว
|
- ทาสีเข้มเป็นเส้นบางๆ บริเวณรอบพับบนเปลือกตา จะำทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและโหนกคิ้วดูเด่นขึ้น
|
- เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางเพื่อเน้นความงามและทำให้ดวงตาแลดูคมเข้มขึ้น
|
- วาดไฟน์ไลเนอร์สีดำที่ขนตาด้านบน โดยเริ่มจากหัวตาเป็นเส้นบางๆ ก่อนแล้วเริ่มวามให้หนาขึ้นตรงบริเวณม่านตา จากนั้นลากเส้นต่อในแนวเฉียงขึ้นเหนือหางตา
|
- ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดที่ขอบตาด้านล่าง
|
- ไม่ควรเขียนขอบตาจนถึงหางตาเพราะจะทำให้ดวงตาเล็กลง
|
- ปัดมาสคาร่า 2 ครั้งที่ขนตาบนและล่าง
|
- ปัดแก้มด้วยที่ทาแก้มแบบฝุ่นสีกลางและสีเข้มบริเวณใต้โหนกแก้ม ปัดสีอ่อนกว่าทับสีเข้ม บริเวณกลางแก้ม และเกลี่ยขึ้นไปจนถึงบริเวณแนวเส้นผม
|
- วาดรูปปากด้วยดินสอเขียนขอบปาก แล้วจึงทาลิปสติก
|
|
|
การแต่งหน้าสำหรับวัยผู้ใหญ่ |
- ใช้ครีมรอบพื้นชนิดเหลวสำหรับการรอบพื้นแบบบาง และครีมรอมพื้นชนิดอัดแข็งสำหรับการรองพื้นแบบหนาเพื่อเพิ่มความชุ่นชื้น
|
- ปกปิดรอบคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง
|
- เนื่องจากสีผิวจะเปลี่ยนไปตาวัย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตรวจดูสีของครีมรองพื้นด้วย โดยควรตรวจดูทุก 3-4 ปี เพื่อให้เข้ากับผิว
|
- ตบท้ายด้วยการปัดแป้งฝุ่น หากทาแป้งหนาเกินไป ริ้วรอยต่างๆจะถูกเน้นให้เด่นชัดขึ้น
|
- ตกแต่งรูปคิ้ว หากจะใช้ดินสอเขียนคิ้ว ควรหลีกเลี่ยงสีดำเพราะจะดูเข้มเกินไป
|
- ให้ที่ทาตาสีอ่อนที่ดวงตาตั้งแต่ขอบตาจนจรดคิ้ว
|
- เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางบริเวณรอยพับของเปลือกตา แล้วเกลี่ยไปจนถึงโหนกคิ้ว ไม่ควรใช้ที่ทาตาสีมุก เพราะสีมุกจะเน้นรอยย่นของผิวที่แห้งและรอยย่นตามวัยให้เด่นชัดขึ้น
|
- แนะนำให้ใช้ที่ทาตาสีม่วง เทา หรือสีเขียว เกลี่ยบริเวณขอบตา ไม่ควรทาสีใดๆ บริเวณขอบตาด้านล่าง เพราะจะทำให้ดวงตาดำคล้ำ ดูเหมือนอิดโรยและอดนอนมากขึ้น
|
- ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดตามแนวขอบตาและเกลี่ยเบาๆ โดยหลีกเลี่ยงสีเข้ม แนะนำให้ใช้สีม่วง น้ำเงิน หรือน้ำตาล
|
- ปัดมาสคาร่า 2 ครั้ง เลือกสีน้ำตามเข้มหรือสีฟ้า เพราะสีดำจะเข้มเกินไป
|
- เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าก็จะหย่อนยานตามวัย การปัดที่ทาแก้มแบบแป้งฝุ่นด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยพรางความหย่อนยานโดยช่วยยกพวงแก้มขึ้นได้
|
- ปัดแก้มจากพวงแก้มจนถึงแนวเส้นผม โดยเน้นเฉพาะบริเวณกลางพวงแก้ม
|
- เฉดสีที่ทาแก้มที่ควรใช้คือ สีชมพูอ่อนและสีพีช
|
- เพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกซึมเลอะขอบปาก ให้ทาครีมรองพื้นที่ริมฝีปากแล้วปัดทับด้วยแป้งฝุ่น
|
- ใช้ดินสอเขียนขอบปากเพื่อเน้นริมฝีปาก แนะนำให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีลิปสติกที่คุณใช้อยู่
|
- สำหรับลิปสติก แนะนำเฉดสีชมพูและแดงในเฉดสีกลางไปจนถึงสีสด
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น